ECON A2 UTCC รุ่น 2533 ม.หอการค้า ลูกฟ้าไทร ทุกคน
Filed Under :
2533,
เศรษฐศาสตร์หอการค้าไทย,
หอการค้าไทย,
ECON A2,
ECONOMIC,
UTCC
by webmaster@banchangmai.com
วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
เมษายน พ.ศ 2533 เป็นปีที่ ฉลามละอ่อนมุ่งหน้าเดินเท้ามาสอบเข้าคณะเศรษฐศาสตร์ ม.หอการค้า
มาเดี่ยวๆ ไม่มีพวก ไม่มีเพื่อนในโรงเรียนเก่าตามมาสอบ เหมือนคนอื่นๆ
มาเพราะอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ จริงๆ หลังจากเอ็นสะท้านไม่ติด
เพราะป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบ ชนิดเอ ก่อนเอ็นสะท้าน ในเดือนมกราคม 2533
ตอนนั้น เรียน ม.6 กำลังสอบปลายภาค อาจจะเป็นเพราะไปบริจาคเลือด ให้แก่คนเจ็บที่ต้องการเลือดกรุ๊ปเดียวกันพอดี อูยแทบตาย กินอะไรไม่ได้ ซดได้แต่น้ำต้มยำเพราะมันเปรี้ยว แทบตายจริงๆ โชคดีมากไปหาหลายหมอ บอกเป็นแล้วไม่หาย จนไปหาคุณหมอประสงค์ บานชื่น ที่คลีนิคหน้าตลาดล่าง รักษาอยู่สามครั้ง พร้อมทานยาจีน เม็ดคล้ายๆ เม็ดเงาะ ควบคู่ไปด้วย สามเม็ด หายสนิท กับมาได้อีก เป็นไปร่วมสองสัปดาห์ ดีนะไม่ต้องเรียนซ้ำ ม.6
ความคิดหลังจากหาย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รู้สึกระวังตัว ไม่อยากไปไหนห่างครอบครัวแล้ว เพราะเห็นใจพ่อกับแม่มากๆ โดยเฉพาะแม่ ที่คอยดูแล ไม่รู้จะกี่ชาติ จึงทดแทนบุญคุณได้หมด เฮ้อ
พอเอ็นก็เอ็นไปแบบนั้น เพราะหนังสืออ่านไม่เข้า นอนดึกก็ไม่ได้ เพราะตับยังไม่ดี ความจริงอาจจะเป็นเพราะไปหัดทานเหล้าหนักขึ้นตั้งแต่ ม.5 พอตอน ม.6 เทอมสองยิ่งหนักขึ้น แต่ก็แบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่ค่อยได้ทานเยอะ แค่จิบๆ แต่ไม่กล้าบอกใคร พอมาอ่านหนังสือดึก แล้วไปบริจาคเลือด เลยเป็นเรื่อง
มาเดี่ยวๆ ไม่มีพวก ไม่มีเพื่อนในโรงเรียนเก่าตามมาสอบ เหมือนคนอื่นๆ
มาเพราะอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ จริงๆ หลังจากเอ็นสะท้านไม่ติด
เพราะป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบ ชนิดเอ ก่อนเอ็นสะท้าน ในเดือนมกราคม 2533
ตอนนั้น เรียน ม.6 กำลังสอบปลายภาค อาจจะเป็นเพราะไปบริจาคเลือด ให้แก่คนเจ็บที่ต้องการเลือดกรุ๊ปเดียวกันพอดี อูยแทบตาย กินอะไรไม่ได้ ซดได้แต่น้ำต้มยำเพราะมันเปรี้ยว แทบตายจริงๆ โชคดีมากไปหาหลายหมอ บอกเป็นแล้วไม่หาย จนไปหาคุณหมอประสงค์ บานชื่น ที่คลีนิคหน้าตลาดล่าง รักษาอยู่สามครั้ง พร้อมทานยาจีน เม็ดคล้ายๆ เม็ดเงาะ ควบคู่ไปด้วย สามเม็ด หายสนิท กับมาได้อีก เป็นไปร่วมสองสัปดาห์ ดีนะไม่ต้องเรียนซ้ำ ม.6
ความคิดหลังจากหาย เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ รู้สึกระวังตัว ไม่อยากไปไหนห่างครอบครัวแล้ว เพราะเห็นใจพ่อกับแม่มากๆ โดยเฉพาะแม่ ที่คอยดูแล ไม่รู้จะกี่ชาติ จึงทดแทนบุญคุณได้หมด เฮ้อ
พอเอ็นก็เอ็นไปแบบนั้น เพราะหนังสืออ่านไม่เข้า นอนดึกก็ไม่ได้ เพราะตับยังไม่ดี ความจริงอาจจะเป็นเพราะไปหัดทานเหล้าหนักขึ้นตั้งแต่ ม.5 พอตอน ม.6 เทอมสองยิ่งหนักขึ้น แต่ก็แบบกล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่ค่อยได้ทานเยอะ แค่จิบๆ แต่ไม่กล้าบอกใคร พอมาอ่านหนังสือดึก แล้วไปบริจาคเลือด เลยเป็นเรื่อง
(พอเข้าเรียนมหาลับ ก็เอาซะตับแย่ไปเหมือนกัน พอจบก็เลิกเลย บุหรี่ ตามมาด้วยเหล้าสุราเบียร์)
หลังจากเอ็นไม่ติด
(จริงแล้วเอ็นฯ ติด แล้วที่ชลบุรี ร้านโต ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หนองมน เอ็นตุ๋นอร่อยมาก น่าจะอร่อยที่สุดในประเทศไทย โฆษณาให้ฟรีๆ)
ก็เลยตัดใจคิดว่าจะไปเรียนรามฯ กับเพื่อนๆ พอดีมีคนแนะนำพ่อกับแม่มาให้มาเรียน หอการค้า เพราะถ้าอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ต้องหอการค้า จบแล้วได้ทำงานธนาคารแน่ๆ (แต่ยังไม่เคยได้ทำซะทีเลย 555)
(จริงแล้วเอ็นฯ ติด แล้วที่ชลบุรี ร้านโต ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ หนองมน เอ็นตุ๋นอร่อยมาก น่าจะอร่อยที่สุดในประเทศไทย โฆษณาให้ฟรีๆ)
ก็เลยตัดใจคิดว่าจะไปเรียนรามฯ กับเพื่อนๆ พอดีมีคนแนะนำพ่อกับแม่มาให้มาเรียน หอการค้า เพราะถ้าอยากเรียนเศรษฐศาสตร์ต้องหอการค้า จบแล้วได้ทำงานธนาคารแน่ๆ (แต่ยังไม่เคยได้ทำซะทีเลย 555)
ตอนสอบก็มาคนเดียว มานอนที่สี่พระยา หน้าไปรษณีย์บางรัก เป็นบ้านของ เตียบ่อกี้ กู้เกียรติ (หน่อง)
เพื่อนสมัยเรียน ม.4 ด้วยกัน แต่ย้ายกลับมาเรียนกรุงเทพตามเดิม เสียก่อน ไอ้หมอนี่นิสัยดีมาก สุดหล่อ บ้านรวย คบสูตร เลยมีสาวตรึม แต่ตอนนั้น มันแบบเด็กๆ ต๊องๆ ไปตามเรื่อง
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะสอบติด เพราะมีความรู้สึกมันยากน่าดุ คนมาสอบเยอะมากๆ ตอนมาดูผลสอบ มีเพื่อนจังหวัดเดียวกัน มาดูผลสอบด้วย คนละโรงเรียน แต่ไม่ได้ เออ กูเฮงหรือเก่งวะนี่ เอ้าได้ก็ดีวะ
เรียนก็เรียน ทั้งๆ ที่ตอนนั้น ใจมันไปรามหมดแล้วฯ เพราะไม่กล้าเรียนเอกชน มันแพง หน่วยกิจละ 220 บาทมั๊ง ถ้าจำไม่ผิด รามแค่ 20 กว่าบาท เอง
สรุปเด็กโรงเรียนเดียวกัน สายวิทย์ด้วยกัน แต่คนละห้อง มาสอบติดที่นี่ สามคน คือ "ไอ้ปรี" ติดบัญชีหนึ่ง และเศรษฐศาสตร์สองคน ภาคปรกติหนึ่งคน คือ "กระผม" เป็นภาคค่ำหนึ่งคน คือ "ไอ้เตี่ย" เป็นประธานชมรมฟุตบอลด้วย เล่นให้ทีมบอลมหาลัยฯ (แต่ชมรมมันจัดฟุตบอลเอง ตอนปี 3 แพ้ทีม "ขี้ยา" ของกลุ่ม Econ A2 ไป 1:0 เป็นการตกรอบที่โคตรพลิกล๊อคมากๆ เพราะกลุ่ม A2 ส่ง 2 ทีม คือ ขี้เหล้า ที่จะเล่นบอลกันเป็นมากกว่า กับทีม ขี้ยา ที่เล่นบอลกันไม่เป็น แต่เขี่ย ชมรมฟุตบอล ตัวมหาลัยตกรอบได้ สุดยอดจริงๆ ทีมที่ส่งทั้ง 2 ทีม ชื่อบอกก็รู้ไม่ใช่นักกีฬา แต่เล่นบอลกันประจำ) และ
เด็กชลบุรีมาเรียนที่นี่โคตรน้อยเลย สมัยนั้น แต่เราทั้งสามคน จริงๆ ก็เล่นบอลมาด้วยกันตั้งแต่ ม.ต้น พอมาเรียนที่นี่ก็ห่างๆ กันไปอีก มีกลุ่มมีพวกของตนเอง
เพื่อนสมัยเรียน ม.4 ด้วยกัน แต่ย้ายกลับมาเรียนกรุงเทพตามเดิม เสียก่อน ไอ้หมอนี่นิสัยดีมาก สุดหล่อ บ้านรวย คบสูตร เลยมีสาวตรึม แต่ตอนนั้น มันแบบเด็กๆ ต๊องๆ ไปตามเรื่อง
ไม่อยากจะเชื่อว่าจะสอบติด เพราะมีความรู้สึกมันยากน่าดุ คนมาสอบเยอะมากๆ ตอนมาดูผลสอบ มีเพื่อนจังหวัดเดียวกัน มาดูผลสอบด้วย คนละโรงเรียน แต่ไม่ได้ เออ กูเฮงหรือเก่งวะนี่ เอ้าได้ก็ดีวะ
เรียนก็เรียน ทั้งๆ ที่ตอนนั้น ใจมันไปรามหมดแล้วฯ เพราะไม่กล้าเรียนเอกชน มันแพง หน่วยกิจละ 220 บาทมั๊ง ถ้าจำไม่ผิด รามแค่ 20 กว่าบาท เอง
สรุปเด็กโรงเรียนเดียวกัน สายวิทย์ด้วยกัน แต่คนละห้อง มาสอบติดที่นี่ สามคน คือ "ไอ้ปรี" ติดบัญชีหนึ่ง และเศรษฐศาสตร์สองคน ภาคปรกติหนึ่งคน คือ "กระผม" เป็นภาคค่ำหนึ่งคน คือ "ไอ้เตี่ย" เป็นประธานชมรมฟุตบอลด้วย เล่นให้ทีมบอลมหาลัยฯ (แต่ชมรมมันจัดฟุตบอลเอง ตอนปี 3 แพ้ทีม "ขี้ยา" ของกลุ่ม Econ A2 ไป 1:0 เป็นการตกรอบที่โคตรพลิกล๊อคมากๆ เพราะกลุ่ม A2 ส่ง 2 ทีม คือ ขี้เหล้า ที่จะเล่นบอลกันเป็นมากกว่า กับทีม ขี้ยา ที่เล่นบอลกันไม่เป็น แต่เขี่ย ชมรมฟุตบอล ตัวมหาลัยตกรอบได้ สุดยอดจริงๆ ทีมที่ส่งทั้ง 2 ทีม ชื่อบอกก็รู้ไม่ใช่นักกีฬา แต่เล่นบอลกันประจำ) และ
เด็กชลบุรีมาเรียนที่นี่โคตรน้อยเลย สมัยนั้น แต่เราทั้งสามคน จริงๆ ก็เล่นบอลมาด้วยกันตั้งแต่ ม.ต้น พอมาเรียนที่นี่ก็ห่างๆ กันไปอีก มีกลุ่มมีพวกของตนเอง
